ข้อดีข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภท

ประเภทรถโฟล์คลิฟท์

ข้อดีข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภท

รถโฟล์คลิฟท์มีกี่ประเภท ? แต่ละประเภทของรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม

และการเคลื่อนย้ายสินค้ามีความแตกต่างกันอย่างไร ? 

บทความนี้เป็นตัวช่วยในการไขข้อสงสัยให้กับท่านที่ต้องการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์

โดยประเภทของรถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้กำลังในการขับเคลื่อนซึ่งรถโฟล์คลิฟท์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 

1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) ที่ใช้แบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน

2. รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Engine Forklift) หรือดีเซล LPG ที่ใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน

1.รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift)

ประเภทรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift)

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ 300x300

1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) ไม่เกิดเขม่าหรือควันในขณะใช้งาน ส่งผลให้สภาพแวดล้อมการทำงานดี

สะอาดไร้ซึ่งมลพิษ ปลอดภัยต่อสุขภาพของพนักงาน

2. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) เกิดเสียงน้อย เงียบสงบ สภาพแวดล้อมการทำงานดี

3. ไม่ต้องกักเก็บเชื้อเพลิง ซึ่งถือเป็นวัตถุไวไฟ เป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ในโรงงานหรือโกดัง

4. ไม่มีค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

5. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยลงเพราะรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) 

ไม่มีเครื่องยนต์ซึ่งทำงาน ณ อุณหภูมิสูง สึกหรอสูง

6. คะแนนความจุและความมั่นคงดีกว่าเมื่อยกของสูง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการลดลงของจุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง

 (Center of Gravity)

7. รัศมีการเลี้ยวดีกว่า สามารถเพิ่มปริมาณในการกักเก็บสินค้าในโกดัง ไม่สร้างความเสียหายให้กับตัวสินค้า

และตัวรถโฟล์คลิฟท์เอง ช่วยเพิ่มผลผลิต

8. วิสัยทัศน์ในการมองเห็นด้านหลังมักจะดีกว่าเพราะไม่มีถังแก๊ส LPG มาบัง

แต่ไม่ถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง

9. อุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานได้ทนทานกว่าเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) LPG

แต่ไม่ถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ดีเซล

10. ผลผลิต ผลประกอบการจะสูงขึ้นเพราะพนักงานขับรถจะมีการเคลื่อนไหวของมือ / แขน / เท้า

ที่ใช้ในการควบคุมรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) น้อยลง

11. เมื่อเปรียบเทียบในตารางบันทึกค่าใช้จ่าย รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) จะมีค่าใช้จ่ายรวมต่ำสุด

เมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ดีเซลและ LPG

12. ไม่ว่าจะถกเถียงกันกี่ครั้ง รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) จะได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเสมอ

แม้จะมองถึงเรื่องการเกิดปฏิกิริยาเคมีในแบตเตอรี่รวมถึงกระบวนการรีไซเคิลแบตเตอรี่ก็ตาม

13. ตัดความกังวลในเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำในหม้อน้ำ

เพราะรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) ไม่มีเครื่องยนต์และชุดเกียร์

14. ในการออกแบบของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift), การเบรคเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและรวดเร็วที่สุด

เท่าที่เท้าของผู้ขับขี่ถูกยกออกจากคันเร่งทำให้เบรคเกิดการสึกหรอน้อย

15. ไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในขณะรอเวลายกสินค้า

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift)

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายืนขับ 300x300

1. รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) ไม่สามารถสร้างแรงบิดให้สูงในกรณีที่เป็นงานหนักพิเศษ

 เท่ารถโฟล์คลิฟท์ชนิดดีเซลและLPG

2. การทำความสะอาด, เติมน้ำกลั่น, ชาร์จแบตเตอรี่ จะจัดการได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ในการทำงานหลายกะหรือทำงาน 24 ชั่วโมง

3. การลืมชาร์จแบตเตอรี่(ช่วงเวลากลางคืน) อาจส่งผลกับการทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ธุรกิจที่รถโฟล์คลิฟท์(Forklift) มีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการทำงาน

4. ประสิทธิภาพการทำงานลดลงในสภาพอากาศเย็นจัด เปียกชื้นและสภาพงานที่อาจเกิดการกัดกร่อน

5. ราคาซื้อครั้งแรกสูงเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ LPG หรือ ดีเซล

6. การระบายอากาศที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าถูกชาร์จ

7. การดำเนินงานในอุณหภูมิแช่แข็งจะก่อความเสียหายกับรถโฟล์คลิฟท์หรือแบตเตอรี่เว้นแต่มีการป้องกันไว้ก่อน

8. ในการทำงานหลายกะหรือทำงานตลอด 24 ชม. จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่สำรอง

2. รถโฟล์คลิฟท์โพรเพน (LPG)

รถโฟล์คลิฟท์โพรเพน Lpg

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์
โพรเพน (LPG)

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ Lpg

 1. มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดอันตราย ถ้าแก๊สไหลออกในขณะเปลี่ยนถัง

2. ราคาซื้อเริ่มต้นต่ำเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) และดีเซล

3. มีการถกเถียงกันว่าไอเสียจากการสันดาปโพรเพน (LPG) สะอาดกว่าไอเสียจากการสันดาปน้ำมันดีเซล

4. ดีกว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) ในกรณีที่ต้องทำงานหนักต่อเนื่องและต้องการแรงบิดสูงๆ

5. ยอมให้ใช้งานในร่มได้ในบางครั้ง แต่ไม่ยอมให้ใช้งานกับสินค้าที่เป็นสินค้าบริโภค

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์
โพรเพน (LPG)

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ Lpg

1. ในการใช้งานที่ต้องการแรงบิดสูงและ / หรืองานหนักต่อเนื่อง ไม่สามารถสู้รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลได้

2. วิสัยทัศน์การมองเห็นด้านหลังถูกจำกัด เนื่องจากมีถังแก๊ส LPG วางอยู่

3. มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรั่วไหลของแก๊สในโรงงาน และเกิดการระเบิดได้ ผู้ประกอบการจะต้องมีการฝึกอบรม

ในการจัดการความปลอดภัยของแก๊ส LPG

4. ค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงสูงเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) และดีเซล (ข้อมูลในต่างประเทศ)

5. รถโฟล์คลิฟท์ LPG สตาร์ทติดยาก และไม่สามารถทำงานได้ดีที่อุณหภูมิแช่แข็ง

6. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจะสูงที่สุด สูงกว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า(Electric Forklift) และรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

7. ค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงฟอสซิลมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาทุกๆ ปี

8. เชื้อเพลิง LPG อาจหาได้ยากในที่ห่างไกล

3.รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

ข้อดี
ของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

ข้อดีของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

1. ค่าใช้จ่ายของน้ำมันเชื้อเพลิงปกติจะน้อยเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPG (ข้อมูลในต่างประเทศ)

2. รถยกดีเซลสามารถสร้างแรงบิดได้สูงกว่าที่ความเร็วรอบต่ำเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPGและไฟฟ้า

3. การมองเห็นด้านหลังจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPG

4. การบำรุงรักษาตามแผนโดยรวมและซ่อมแซมจะน้อยเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPG

5. ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่าการปล่อยไอเสียของดีเซลสะอาดกว่าการปล่อยไอเสียของโพรเพน LPG

6. มีค่าใช้จ่ายรวมต่ำเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพนLPG แต่สูงกว่ารถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า

7. เครื่องยนต์ทนทานและใช้งานได้ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับรถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPG

ข้อเสีย
ของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

ข้อเสียของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล

1. ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในร่ม โดยไม่มีชุดอุปกรณ์กรองไอเสียราคาแพง

2. ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล มีราคาแพงกว่ารถโฟล์คลิฟท์โพรเพน LPG

3. ต้องมีถังขนาดใหญ่สำหรับเก็บเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูง

4. ค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงฟอสซิลมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาทุกๆ ปี

บทความล่าสุด

ติดต่อเราวันนี้